Saturday, December 22, 2007

เปลี่ยนแนวคิด สร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าส่งออก

สถาณการณ์ค่าเงินบาทแข็ง ทำให้การส่งออกที่เคยอาศัยความได้เปรียบด้านราคาถูกมีความสามารถลดลง”เป็นคำพูดจากปากนักการเมืองหลายคนที่พูดถึงสถาณการณ์การส่งออกของประเทศไทยขณะนี้ ผมเกลียดจริงๆครับที่ท่านพูดแบบนี้เพราะว่าฟังแล้วมันสะท้อนให้เห็นว่าท่านเหล่านี้ยังคงเห็นประเทศไทยต้องไปแข่งด้านราคาสินค้าอยู่ดี มันเก่าแล้วนะครับท่านประเทศจีนนั้นเปิดประเทศมาเป็นสิบปีแล้วแต่ผู้บริหารประเทศไทยยังคงวางตำแหน่งของประเทศอยู่แบบเดิมก็คือแข่งทำของถูก เอาล่ะจะมีไอเดียของท่านมาใหม่หน่อยก็คงจะเป็นเรื่องการคิดริเริ่มการกระตุ้นว่าเฮ้ย!!เราต้องมีความคิดสร้างสรรค์นะ ต้องออกแบบนะ ต้องวิจัยนะ ต้องสร้างนวัตกรรมนะ ที่ท่านๆพูดมานั้นไม่ผิดหรอกครับ การใส่ดีไซน์และการออกแบบลงไปในสินค้านั่นก็เป็นทางหนึ่งครับที่เป็นทางออกจากวิกฤตนี้ครับการพูดเรื่องนี้ทำให้มีการตื่นตัวกันมากในหมู่ผู้ประกอบการกลายเป็นหันมาทำของสวยๆ เน้นแต่รูปลักษณ์ภายนอกกันใหญ่ ความจริงแล้วถ้าเรา หันมามองซิครับว่าประเทศเรานั้นโรงงานผู้ผลิตส่วนใหญ่ทำอะไรกัน คำตอบก็คือเรารับจ้างผลิตชิ้นส่วนเป็นส่วนใหญ่ แล้วโรงงานเหล่านี้ล่ะครับเค้าจะทำอย่างไร?????? คำตอบคือมีอีกหลายแนวทางที่เราสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าที่ผลิตจากประเทศไทยได้ ไม่ใช่แค่การออกแบบเท่านั้น ขออาศัยประสบการณ์ที่ผมทำงานอยู่ในส่วนส่งออกมาประมาณ ห้าปี ผมคิดว่าแนวทางการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าไทยมีง่ายกว่านั้นอีก ถ้าคุณคิดว่าการออกแบบมันไกลเกินไป อย่างแรกเลยครับ เลิกคิดว่าจะโรงงานเป็นอุตสาหกรรมเป็นการทำแต่หน้าที่ผลิตเท่านั้น แต่ให้คิดว่าโรงงานอุตสาหกรรมเป็นการบริการทางการผลิต ทำไมผมถึงพูดอย่างนี้เพราะว่ากระบวนการระหว่างทางก่อนที่จะผลิตสินค้าออกมานั้นสำคัญไม่แพ้รูปลักษณ์และคุณภาพการผลิตเช่นกันเผลอๆสำคัญกว่าด้วย ระหว่างทางที่ว่าก็คือ การให้การบริการกับลูกค้านั่นเอง การบริการที่ว่าเป็นการสร้างคุณค่าด้านความรู้สึก ผมว่าความรู้สึกที่ลูกค้าต้องการมากที่สุดก็คือ ความมั่นใจ ความรู้สึกสะดวกสบายงานเสร็จเร็ว และความรู้สึกถึงความเป็นคนพิเศษที่ได้รับการใส่ใจจากเรา ก็คือเริ่มตั้งแต่เริ่มโครงการกันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการทำตัวเป็นคนหัวไวจับประเด็นและความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงประเด็นรวดเร็วนี่คือความประทับใจแรกของลูกค้าที่จะมีต่อสินค้าของเราเลย พูดง่ายๆว่าลูกค้าสบายใจเพราะทำงานกับคนหัวไว ต่อมาระหว่างการผลิตต้องติดต่ามผลง่ายพร้อมรายงานข้อมูลให้ทราบตลอดเวลาและต้องรายงานข้อมูลตามความจริงหรือใกล้เคียงความจริงมากที่สุดเพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าว่าสินค้าจะผลิตเสร็จทันและได้คุณภาพตามที่กำหนด ความมีมาตรฐานของตนเองโดยต้องมีความซื่อสัตย์และเคารพในมาตรฐานตนเองเพื่อให้ลูกค้าเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้าของเรา และอย่างสุดท้ายคือซื่อสัตย์ตรงเวลาโปร่งใสตรวจสอบได้ เพราะทำให้เขารู้สึกว่าทำงานง่ายไม่ยุ่งยากซับซ้อน หากจะให้ผมเน้นประเด็นหลักผมขอเน้นที่ สองประเด็นหลักคือ คุณภาพสินค้าที่สม่ำเสมอและ สามารถส่งสินค้าได้ตรงเวลา แค่สองอย่างนี้ถ้าทำได้ก็สามารถช่วยให้ลูกค้าประหยัดเงินได้มากมาย เพราะว่าการทำงานส่งของได้ตรงเวลานั้นอาจจะหมายความถึงความสะดวกรวดเร็วในการบริหารจัดการ และรวมไปถึงการไม่โดนปรับด้วยในกรณีการส่งของล่าช้า เท่าที่ประสบการณ์ของผมมีผมพบว่าลูกค้าที่ต้องการความมั่นใจในเรื่องคุณภาพและกำหนดส่งของแล้ว เขายินดีที่จะจ่ายราคาสินค้าที่แพงกว่านิดหน่อยดีกว่าเสี่ยงโดนปรับจากกรณีโดนเคลมเรื่องคุณภาพและเรื่องกำหนดส่งเสินค้า ซึ่งมักประสบปัญหากับโรงงานที่ประเทศจีน
ตรงนี้นี่เองที่ผมว่าเป็นสิ่งที่น่าจะเผยแพร่เพื่อให้เกิดแนวความคิดอย่างนี้แพร่หลายออกไป ก่อนจบผมขอเสริมเสนห์ให้กับสินค้าไทยด้วยประเด็นง่ายๆทำได้แน่แน่สำหรับคนไทยนั่นก็คือ มารยาทและวัฒนธรรมการต้อนรับอย่างไทยไทย เชื่อมั๊ยครับว่าลูกค้าของผมหลายๆคนชอบที่จะทำงานกับคนไทยด้วยเหตุผลง่ายๆคือความสบายใจและความรู้สึกอบอุ่นที่ทำงานกับคนไทย การไหว้การสวัสดี ขอบคุณ ความนอบน้อมอย่างคนไทยมีพลังอย่างมหาศาลในการตัดสินใจของลูกค้า และเสนห์ของคนไทยอีกอย่างเช่นการเดินก้มหัว การไม่เดินข้ามคร่อมสิ่งของ การไม่ใช้เท้าชี้หรือเตะ การรักษาความสะอาด ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าของเราได้ง่ายขึ้นเพราะเขาดูแล้วรู้สึกว่าเราดูแลและใส่ใจกับสินค้าของเขามาก ไม่ใช่เดินครอมเหยียบข้ามสินค้าไปมา สุดท้ายคงอยากฝากให้คนที่แวะมาอ่านแล้วเป็นเจ้าของสินค้าใดใดอยู่ให้คิดว่าเราทำงานหนักเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าเป็นหลักกันดีกว่าครับ เพราะอยากให้คิดไว้เสมอว่า คนเราทุกคนล้วนต่างก็ชอบความสะดวกสบาย ยิ่งใครก็ตามที่ให้งานเขาสำเร็จง่ายขึ้นก็ยิ่งทำให้เขาตัดสินใจซื้อสินค้าของเราได้ง่ายขึ้น