Sunday, December 28, 2008

หนึ่งปีที่ผ่านไป ปีที่ผมเพิ่งเคยรู้สึกว่า ชีวิตเปลี่ยนไป จริงๆ

อยู่ดีดีวันนี้ก็อยากเขียนถึงเรื่องในรอบหนึ่งปีที่กำลังจะผ่านไป ความรู้สึกที่ชัดเจนของตัวเองที่รู้เลยว่ามีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง นั่นก็คือเรื่องของการประพฤติปฏิบัติตัวต่างๆ โดยเฉพาะการควบคุม กาย ปาก และ ใจ จากปากที่เคยไว แซวคนโน้นทีคนนี้ที พูดคุยเรื่อยเปื่อย คิดปั๊บก็พ่นออกปากปุ๊ป ก็เปลี่ยนเป็น คิด แล้วต้องไตร่ตรองก่อนแล้วค่อยพูด  เหมือนที่คนเค้าพูดว่า คิดแล้วค่อยพูด ในช่วงแรกๆนั้นมันอาจจะยากหน่อยสำหรับผม ที่ยากก็เพราะผมถือเอาตัวเองเป็นใหญ่ อย่างที่เคยพูดว่า ก็กูเป็นของกูอย่างนี้ ใครจะทำไม แต่ตอนนี้ก็เลยต้องพูดใหม่ ว่า เ ราเป็ฯตัวของตัวเรา ที่ต้องไ ม่ทำให้ใครเดือดร้อนหรือไม่สบายใจ  และจริงใจกับตัวเอง และความรู้สึก และความต้องการของตัวเองมากขึ้น
บางทีการที่เราไม่เคยคิดที่จะปฏิบัติเลยหรือไม่เคยคิดจะฝึกฝนอะไรเลย มันก็ทำให้ตัวตน Ego ของเรามันพอกพูนหนาขึ้น จนบางครั้งเราไม่ยอมรับฟังคนทัดทานหรือคนที่เห็นแตกต่างจากเราเลย ทั้งที่สิ่งที่เขาพูดนั้นมันเป็นสิ่งที่ถูกต้องกว่าสิ่งที่เราคิดซะอีก เราใช้ตัวตนและความคิดของเราตัดสินไปก่อนแล้วดังนั้นเราจึงละเลยที่จะฟังความคิด ความเห็นของคนอื่น

ผมว่าถ้าใครได้มีช่วงเวลาแบบนี้เหมือนผมคงจะเข้าใจได้ว่า ระหว่างทางนั้นมัน เจ็บปวด ทรมาน และ ทุกข์ร้อนมากขนาดไหน แต่พอมาถึงจุดตรงนี้แล้ว จุดที่เราพอจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร จุดที่เราปฏิบัติตัวมาได้สักระยะหนึ่ง แล้วมองย้อนกลับไป ก็คงจะรู้ว่าที่เราเคยเป็นมานั้นมันไม่เหมาะไม่ควรขนาดไหน

การโตเป็นผู้ใหญ่นี่มันยากลำบากจริงๆนะเนี่ย แต่ก็ยังดีนะ ที่เราได้รู้สึกว่าเราเริ่มโตมากขึ้นแล้ว 

สุดท้ายนี้ คงจะขาดไม่ได้เลย คือขอขอบคุณคนที่คอยแนะนำ คอยตักเตือน และนำเราให้ออกเดินทาง คนคนนั้นคือเพน นั่นเอง